ทำไมต้อง ทาสีกันไฟ

ทำไมต้อง ทาสีกันไฟ กับโครงสร้างอาคารเหล็ก ทาแล้วได้อะไร

 สีทนไฟ (Fire Proof Protection) คือ สีที่ทนความร้อน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้การ ทาสีกันไฟ จะช่วยชะลอไม่ให้โครงสร้างเหล็ก ได้รับความร้อนเร็วเกินไป และไม่ให้โครงสร้างเหล็กเสียกำลังการรับน้ำหนัก จนรูปทรงบิดงอหรือผิดเพี้ยนไปจากเดิม นอกจากนี้ยังสามารถยึดติดกับชั้นรองพื้นผิวโลหะได้ดี

สำหรับใครที่ใช้สีกันไฟ กับโครงสร้างเหล็ก นอกจากเรื่องของความปลอดภัย ในบทความนี้ Bitec Enterprise จะพาคุณไปทำความรู้จักเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย รวมถึงข้อควรรู้ในการเลือกใช้สีกันไฟที่ถูกต้อง

 

ทำไมถึงต้อง ทาสีกันไฟ ?

ทาสีกันไฟ

สิ่งปลูกสร้างในปัจจุบัน ที่มีการก่อสร้างด้วยโครงสร้างเหล็ก เนื่องจากก่อสร้างง่าย รวดเร็ว และมีความแข็งแรงทนทาน แต่ถ้าหากเกิดเหตุเพลิงไหม้ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สิน ดังนั้นการก่อสร้างอาคารทุกชนิด จึงต้องผ่านกฎหมายควบคุมอาคาร ควบคุมประเภท ลักษณะ วัตถุประสงค์การใช้งาน ให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในทางกฎหมาย และในด้านความปลอดภัยของการก่อสร้างอาคารโครงสร้างเหล็กนั้น สามารถอธิบายได้ดังนี้

2.1 การใช้สีกันไฟในทางกฎหมาย

ตาม กฎกระทรวงฉบับที่ 60 ในกรณีที่โครงสร้างหลักที่เป็นเสาหรือคาน ก่อสร้างด้วยเหล็กโครงสร้างรูปพรรณที่ไม่ได้ใช้คอนกรีตหุ้ม จะต้องมีการป้องกันเพื่อ ให้มีอัตราทนไฟไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง โครงสร้างพื้น 2 ชั่วโมง และโครงหลังคาหากเป็นอาคารชั้นเดียว จะต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ถ้าหากเป็นอาคารตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง โดยจะต้องมีเอกสารรับรองอัตราการทนไฟของสถาบันที่น่าเชื่อถือประกอบการขออนุญาต รวมถึงการใช้สีทนไฟที่อยู่ภายใต้มาตรฐาน ไอเอสโอ 834 (ISO 834) หรือ มาตรฐาน เอเอสทีเอ็ม อี 119 (ASTME 119) ตาม กฎกระทรวงฉบับที่ 60

2.2 การใช้สีกันไฟในด้านความปลอดภัย

ในด้านความปลอดภัย สีกันไฟ หรือ สีทนไฟ มีคุณสมบัติ ช่วยชะลอความร้อนที่จะเข้าไปทำลายโครงสร้างของอาคาร เพราะเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้อุณหภูมิความร้อนจะพุ่งสู่ 1,000 องศาเซลเซียส และตัวโครงสร้างเหล็กจะเสียหาย เมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 550 องศาเซลเซียส จึงจำเป็นต้องมีการเคลือบวัสดุด้วยการ ทาสีกันไฟ เพื่อช่วยชะลอระยะเวลา ให้ได้นานที่สุดไม่ให้อาคารถล่มลงมา ในช่วงที่เกิดเหตุไฟไหม้

 

ข้อควรรู้ก่อน ทาสีกันไฟ

ข้อควรรู้ก่อน ทาสีกันไฟ

เมื่ออ่านมาถึงหัวข้อนี้จะเห็นได้ว่า วัสดุสีเคลือบกันไฟมีความทนทานสูง และมีความสำคัญในการปกป้องโครงสร้างเหล็กของอาคาร แต่นอกจากเรื่องของคุณสมบัติแล้ว สีกันไฟก็มีข้อควรรู้ ที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องศึกษาก่อนเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งมีดังนี้

  • ข้อกำหนดทั่วไป
    • ผู้ติดตั้งต้องเป็นผู้จัดเตรียมคนงาน, เครื่องมือ และเครื่องจักรที่ใช้ในการปฏิบัติงานและติดตั้ง
    • ต้องติดตั้งวัสดุป้องกันไฟทั้งหมดที่ระบุไว้ในแบบ, ระบุไว้ ณ ที่นี้ และ/หรือตามความจำเป็นของสภาพหน้างาน
  • คุณสมบัติที่ต้องการ
    • วัสดุป้องกันไฟ โครงสร้างเหล็กต้องมีอัตราการทนไฟตามกฎกระทรวง ติดตั้งด้วยวิธีการพ่น หรือทาบนโครงสร้างเหล็ก
  • ข้อกำหนด
    • ก่อนทาสีกันไฟต้องใช้วัสดุป้องกันไฟโครงสร้างเหล็กที่ได้มาตรฐาน ตามการทดสอบมาตรฐาน ASTM E119
  • การรับรองคุณภาพ
    • ต้องใช้วัสดุป้องกันไฟแต่ละรุ่น ที่ผลิตจากโรงงานเดียวกันที่ได้มาตรฐาน
    • ผลิตภัณฑ์, การติดตั้ง และความหนาของวัสดุกันไฟ จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนด เกี่ยวกับอัตราการทนไฟ
    • ผู้ติดตั้งวัสดุป้องกันไฟต้องเข้านำเสนอวิธีการติดตั้ง ก่อนการติดตั้งเพื่อตรวจรับวัสดุ, การติดตั้ง, ความหนา, กระบวนการติดตั้ง และหัวข้ออื่นๆ
  • ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
    • วัสดุป้องกันไฟ ต้องเป็นวัสดุประเภท Solvent-Based Intumescent หรือ Water-Based Intumescent และต้องไม่มีสาร asbestos
    • วัสดุป้องกันไฟ เมื่อแห้งตัวแล้วจะกลายเป็นแผ่นฟิล์มบาง ผิวขรุขระ มีความหนาตามชั่วโมงการทนไฟที่กำหนด ตามกฎกระทรวง

ดังนั้นก่อนการเลือกใช้วัสดุสีเคลือบกันไฟกับโครงสร้างอาคาร ควรรู้ข้อกำหนดเหล่านี้ เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ได้มาตรฐานสูงสุด โดยคุณสมบัติของสีกันไฟที่ดีต้องได้รับมาตรฐาน ISO 834 หรือผ่านการทดสอบมาตรฐาน ASTM E119 ซึ่งในหัวข้อถัดไปจะอธิบายถึง การพิจารณาสีกันไฟที่ดี เพื่อการใช้งานที่ได้คุณภาพ

 

สีทนไฟที่ ดีต้องเป็นอย่างไร?

สีทนไฟที่

โดยปกติแล้วโครงสร้างเหล็กจะเกิดความเสียหายก็ต่อเมื่อโดนความร้อนที่อุณหภูมิ 538 °C หรือ 1000 °C ต้องมีสีเคลือบกันไฟเข้ามาเป็นตัวช่วยชะลอความร้อน จึงจำเป็นอย่างมากในการเลือก ทาสีกันไฟ

เพราะคุณสมบัติของสีกันไฟเมื่อโดนความร้อน จะทำปฏิกิริยาและพองตัวขึ้นเป็นโฟมสุญญากาศเคลือบผิวเหล็ก ทำให้ความร้อนของเปลวไฟเคลื่อนตัวไปสู่ผิวเหล็กช้าลง จึงจำเป็นต้องเลือกสีกันไฟที่ได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบ และได้รับการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสีกันไฟที่ดีจะต้องมีลักษณะดังนี้

  • ผ่านการทดสอบการป้องกันไฟตามมาตรฐาน ASTM E119 หรือ ISO 834
  • ปกป้องโครงสร้างเหล็ก และช่วยชะลอการทรุดตัวของอาคารเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้
  • มีอัตราการทนไฟนาน 1-3 ชั่วโมง
  • มีให้เลือกหลายสูตรทั้ง สูตรน้ำมัน (Solvent Based) และ สูตรน้ำ (Water Based)
  • สีกันไฟที่ดีจะไม่มีสารพิษตกค้าง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

 

สีกันไฟ ของ Bitec Enterprise ดีอย่างไร?

ผลิตภัณฑ์สีกันไฟ (FIREKOTE S99) ของ Bitec Enterprise ผ่านมาตรฐาน ASTM E119 และเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 60 ได้รับมาตรฐานการรับรองสากล ผ่านการรับรองจากวุฒิวิศวกร และสถาบันที่เชื่อถือได้ สีกันไฟที่ดีเมื่อวัสดุแห้งแล้วจะมีความทนทาน และยึดติดกับโครงสร้างเหล็กได้เป็นอย่างดี ช่วยชะลอความร้อนจากเหตุเพลิงไหม้ และยืดระยะเวลาได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง 

มีหลายสูตรให้เลือก ได้แก่ สูตรน้ำมัน (Solvent Based) และ สูตรน้ำเป็น Low VOC (Water Based) นอกจากจำหน่ายสีกันไฟแล้ว ยังมีทีมงานติดตั้งสีกันไฟ โดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าหากคุณกำลังมองหาแหล่งจำหน่ายสีกันไฟ หรือวัสดุก่อสร้างประเภทอื่นๆ เราขอเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีให้แก่คุณ  

 

เลือก สีทากันไฟ มาตรฐาน พร้อมติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ต้อง Bitec Enterprise

สำหรับใครที่ต้องการเลือกใช้ สีทากันไฟ ควรให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรฐานเป็นอันดับแรก เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ขอแนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านสีกันไฟ อย่าง Bitec Enterprise ทางเรามีแบรนด์สีกันไฟให้เลือกมากมาย ได้แก่ FIREKOTES99,FIRECUT M-900, ISOLATEK WB3/WB4/WB5 การเลือกแบรนด์สีกันไฟนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม และตามมาตรฐานสากลที่รองรับ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของวุฒิวิศวกรตลอดโครงการ และอยู่ภายใต้กฎกระทรวงตามกฎหมาย

 

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่

Facebook: BITEC Enterprise Ltd.

E-mail: info@bitecenterprise.com

Line: @Bitecenterprise

Tel: 02-717-1155